การต่อสู้กับการแพร่ระบาด ของโควิท-19 เป็นเรื่องยาก แต่ตอนนี้เรา มีวัคซีนสองชนิดเพื่อป้องกันเราจากโควิด-19
วัคซีนที่นำเข้ามาล๊อตแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้ง 2 ชนิดได้แก่
1 วัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกา หลักการวัคซีนตัวนี้ คือ เอาไวรัสตัวหนึ่งที่ไม่ก่อโรคในคน และเอาพันธุกรรมของโควิด-19 ที่สร้างโปรตีน(สไปรท์โปรตีน) จนเกิดการแพร่ระบาดเยอะๆ เข้าไปแตะกับไวรัสตัวนี้และเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งภูมิคุ้มกันตัวเราจะพบว่าไวรัสตัวนี้เป็นสิ่งแปลกปลอม และจดจำว่านี่คือเชื้อโรค เมื่อจำได้ภูมิคุ้มกันในตัวเราก็จะกำจัดไวรัสพวกนี้ ดังนั้น ตัวนี้จึงมีประสิทธิภาพสูงถึง 90% โดยทั้งหมดต้องฉีด 2 ครั้ง แต่วัคซีนตัวนี้ไม่ได้เอาโควิด-19 มาทำ จึงทำให้ราคาไม่แพง ขณะนี้ในไทยได้ประมาณ 5 เหรียญสหรัฐต่อ 1 โดส อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้มีบริษัทอื่น อย่างรัสเซียด้วย แต่เราไม่ได้เอาเข้ามา
2 วัคซีนจากซิโนแวต เพราะแอสตราเซเนกาอย่างเดียวอาจไม่พอ โดยวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวต เป็นการใช้เทคโนโลยีที่นำเชื้อโควิด และทำให้อ่อนแรงลง จนไม่สามารถทำอันตรายได้ และนำเข้าร่างกายเรา จนภูมิฯ ของเราจดจำเชื้อไวรัสนี้ และเมื่อเชื้อเข้ามาก็จะไปจัดการ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ เป็นเทคโนโลยีเดิมแต่มีราคาสูง เพราะต้องไปจัดการเชื้อให้อ่อนแรงไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย ซึ่งได้ผลประมาณ 50% ที่เพียงพอต่อการเกิดภูมิคุ้มกัน โดยเทคโนโลยีเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งปลอดภัยมาก เพราะรู้จักมานาน แต่เทคโนโลยีของแอสตราฯ โดยทฤษฎีไม่ได้ใส่ไวรัสเข้าไป โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน อาการแพ้ก็น่าจะน้อย ซึ่งผลการศึกษาระหว่างทดสอบระยะ 1 2 และ 3 พบบ้าง 2-3 กรณี แต่สุดท้ายไม่เกี่ยวกับวัคซีน ก็ถือว่าปลอดภัย
วัคซีน 2 ตัวนี้ ทั้งจากแอสตราฯ และซิโนแวต จะนำเข้ามาในประเทศไทย และเมื่อเข้ามาและทุกคนฉีดก็จะครอบคลุมประมาณ 50-60% ของคนไทย บวกกับคนจำนวนหนึ่งที่ติดเชื้อแล้ว และมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งน่าจะมีประมาณ 60-70% รวมๆแล้วก็น่าจะถึงตัวเลขที่อาจทำให้โควิด-19 ถูกกำจัดโดยปริยาย นี่คือ เหตุผลของการฉีดวัคซีนเพื่อช่วยชาติ จึงอยากให้เข้าใจในเรื่องเหล่านี้ และนี่ถือว่าโชคดีอย่างคือ เราไม่ได้เห่อเทคโนโลยีจนเอาแต่ตัวใหม่เท่านั้น แต่ 2 ตัวนี้ที่จะเอาเข้ามาถือว่าปลอดภัย” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว และว่า แต่วัคซีนตัวนี้ไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันโควิด19 ของเรานานมาก อาจอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี ก็อาจต้องฉีดปีละครั้ง แต่ยังสรุปไม่ได้ ณ เวลานี้
วัคซีนทั้งสองชนิดไม่มีค่าใช้จ่าย รัฐบาลจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายสําหรับค่าวัคซีน จะต้องฉีดวัคซีนทั้งหมดสองเข็ม ในระยะเวลาสามถึงสี่สัปดาห์ วัคซีนทั้งสองชนิดปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง วัคซีนมีประสิทธิภาพ 94 ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ผ่านการรับรองจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาของ สหรัฐอเมริกา (FDA) ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและมี ประสิทธิภาพสูง โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูงสุดจะได้รับวัคซีนก่อน กรมอนามัยได้ตัดสินใจเลือกผู้ที่มีความเสี่ยงสูดสุด จะได้รับวัคซีนก่อน และต่อไปทุกคนสามารถฉีดวัคซีนได้เมื่อมีปริมาณเพียงพอ หลังฉีดวัคซีนอาจมีผลข้างเคียง เช่นเดียวกับวัคซีนทั่วไปอื่น ๆ คุณอาจเจ็บแขน มีไข้ ปวดหัว หรืออ่อนเพลียหลังจากได้รับวัคซีน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าวัคซีนกําลังทํางาน